จะเห็นได้ว่าทุกประเทศที่กำลังจะก้าวไปเป็นมหาอำนาจ...จะต้องผ่านบทเรียนที่แสนสาหัสมาอย่างมาก...แต่ถ้ามองย้อนกลับดูประเทศของเรา...เราเคยผ่านช่วงนั้นมาเหมือนกัน(การเสียกรุงศรีฯ)แต่ที่ต่างกันคือบทเรียนเหล่านั้นไม่ได้สอนให้เรารักกัน...ผมสรุปตามความคิดส่วนตัวได้อย่างง่ายๆว่า...คนไทยไม่เหมือนกับคนชาติอื่นในโลก คือเจ็บแล้วไม่จำ และขาดความสำนึกในความเป็นชาติ ความสามัคคี

สถานที่ตรงนี้มี ตำรวจรักษาความปลอดภัยเต็มไปหมดครับ
เนื่องจากว่าใกล้ที่พำนักของผู้นำ

คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม...เป็นทนายหนุ่มไฟแรงครับ...(ทนายสิทธิโชคฯ)

น้องสาวคนนี้(น้องอ็อด)เป็นน้องที่น่ารักมาก...ทำงานอยู่ในสำนักพระราชวัง

น้องเอี้ยงแก้วอยู่กระทรวงแรงงาน

ขนาบข้างไปด้วยคนน่ารัก

ซากของความหนาวเย็น...หิมะ...ที่ยังหลงเหลืออยู่

เสื้อกันหนาวสีแดงที่ใส่ไม่ใช่ของผมนะครับ...พอดีพี่เค้าฝากไว้...มันหนาวมากเลยเอาใส่ซะเลย

ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วครับ...เมนูมื้อนี้เป็น อันดง จิมดัก (ไก่ตุ๋นโสม)นั้นเอง เป็นอาหารที่มีชื่อมากในเขต อันดง
ไก่ตุ๋นโสม จะเป็นไก่ทั้งตัว โตพอประมาณ ข้างในยัดไส้ข้าวสุกและโสมเกาหลีพุดทราจีน ตุ๋นจนเนื้อไก่นุ่ม น้ำซุปเข้มข้นอร่อยกำลังดี
ตักเสริฟในหม้อร้อนๆ เวลาทานจะแหวกอกไก่ออก แล้วเอาเส้นคล้ายๆกับขนมจีนใส่เข้าไปคลุกเคล้ากับข้าวสุกที่อยู่ข้าง...เติมรสชาติด้วยน้ำมันงา...และโชยุ ใครต้องการรสจัดสามารถเติมพริกป่นลงไปได้ พริกที่นี่แดงมากแต่รสชาดไม่ค่อยเผ็ด...และที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องเคียงนั้นเอง

เมนูไก่ตุ๋นโสม มื้อนี้อร่อยดีครับ รสชาดกลมกล่อมกำลังดี และที่สำคัญโสมเกาหลีมีประโยชน์มีทั้งร้อนและเย็นในตัวเอง ช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกาย ถ้ามีโอกาสจะไปทานอีก...555...สำหรับโปรแกรมต่อไป คือ หมู่บ้านนัมซานฮันอก