ปราสาทเขาพระวิหารเคยเป็นสมบัติของประเทศไทยมาก่อน แต่เมื่อเกิดกรณีพิพาทเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ถูกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินให้ตกเป็นสมบัติของประเทศกัมพูชาประชาธิปไตยโดยเด็ดขาดแล้ว

ความเชื่อของคนไทย...ที่มาเที่ยวที่นี่แล้วจะต้องเอาไม้มาค้ำยันเพื่อให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวจะได้มั่นคง

จุดชมวิว และจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่ง
- แอบกอดผู้หญิง... คิดเสียว่าเป็น.. หมอ-นอ

ด้านใต้ลงไปบริเวณ ผามออีแดง มีภาพสลักหินนูนตํ่ารูปคล้ายนางอัปสรา 3 องค์ เป็นศิลปะเขมร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 15
- เป็นรูปสลักซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

(หมายเหตุ (Yumiko) : นักวิชาการบางคนระบุว่า
- พระศิวะอยู่ตรงกลาง
- ด้านซ้าย คือ พระอุมา
- ด้านขวาคือพระแม่คงคา)

บริเวณผามออีแดง ในช่วงฤดูฝนจะปรากฏทะเลเมฆที่ไหลมาจากที่ราบแผ่นดินเขมรต่ำมาปะทะหน้าผาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ไปเยือนผามออีแดงในฤดูนี้จะได้มีโอกาสอาบเมฆอย่างแสนประทับใจ

จุดถ่ายรูปที่ได้รับความสนใจอีกที่หนึ่งครับ...เพื่อเป็นการยืนยันว่าผมมาถึงผามออีแดงจริง

ความน่าเสียใจที่ ปราสาทเขาพระวิหารเคยเป็นสมบัติของประเทศไทยมาก่อน
- แต่เมื่อเกิดกรณีพิพาท และถูกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินให้ตกเป็นสมบัติของประเทศกัมพูชาประชาธิปไตยโดยเด็ดขาดแล้ว เราต้องเอาธงชาติไทยลง

ถือได้ว่าเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจของการศึกษาดูงานอีสานใต้ครับ..
- ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจะนำมาปรับใช้โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน และในทงาอ้อมในเรื่องการทำงานและการดำรงชีวิต

..ถ้าได้มีโอกาสได้เดินทางไปไหนอีกคงจะได้นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะครับ..

พบกันใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไปนะครับ (ประมาณ กลาง มีค ๕๔) ...สวัสดี

ปราสาทพระวิหาร- เปรี๊ยะ วิเฮียร์
เสาร์ ๑๕ มค ๕๔

เปรียบดังวิหารสวรรค์ของผู้คนในดินแดนเขมรต่ำและในเขตพนมดงเร็ก
- ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของช่องตาเมือน เหนือยอดเขาพระวิหารที่มีความสูงกว่า ๕๐๐ เมตร

พื้นที่รอบเขาพระวิหารเป็นเขตที่อยู่ของคนพื้นเมืองหลายกลุ่ม
- มีลำตราวเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ

ยอดเขาพระวิหารถือเป็นเขตภูเขาศักดิ์สิทธิ์

ปราสาทเขาพระวิหาร ---๒

สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑(พุทธศตวรรษที่ ๑๖) ได้ทรงสถาปนาให้เขาพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐาน กมรเดงชคตศรีศิขเรศวร เพื่อหลอมรวมความหลากหลายของผู้คนต่างวัฒนธรรม ทั้งพวกจาม ขอม ส่วย ให้เป็นอันหนึ่งเดียวกัน

ได้โปรดให้ผู้นำท้องถิ่นเดิมแถบเขาพระวิหาร สาบานตนแสดงความจงรักภักดีต่อ กมรเดงชคตศรีศิขเรศวร
- ที่หน้าบันของภวาลัย อันเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ มีภาพจำหลักรูปพระศิวะฟ้อนรำเหนือศีรษะช้าง(มีความหมายในทางสัญญลักษณ์ ว่า กษัตริย์ขอมมีอำนาจเหนือกลุ่มชนที่ชำนาญในเรื่องช้าง(พวกส่วย)

แม้ว่าตัวปราสาทจะถูกสร้างโดยกษัตริย์ขอม แต่ทางขึ้นปราสาทและภวาลัยหันหน้ามาทางทิศเหนือสู่เขตอีสานใต้ของประเทศไทย แสดงถึงการเป็นที่สักการะของผู้คนในแถบนี้ และสอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศ สำหรับผู้คนในดินแดนเขมรต่ำ- มีทางขึ้นที่สูงชันมาก อยู่ทางด้านตะวันออกของปราสาททางช่องเขสแคบที่เรียกว่า ช่องบันไดหัก